แหล่งท่องเที่ยวเชิงผจญภัย
เส้นทางเดินป่า..พิชิตยอดเขานางนอน หมู่บ้านชาวเขาผาหมี ตั้งอยู่ถนนสายพระธาตุดอยตุง – บ้านผาหมี ห่างจากพระธาตุดอยตุง ประมาณ 10 กม. หมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า บ้านผาหมี หมู่ที่ 6 ตำบลเวียงพางคำ มีสภาพภูมิทัศน์ที่สวยงาม อยู่ห่างจากสถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอแม่สาย เพียง 6 กิโลเมตร บริเวณโดยรอบหมู่บ้าน เป็นภูเขาหินอ่อน หินปูน มีถ้ำเล็ก ถ้ำน้อย ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความท้าทาย สัมผัสกับวิถีชีวิตชาวไทยภูเขา ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง.... เดิมพื้นที่นี้ใช้เป็นศูนย์บำบัดยาเสพติดชาวเขาในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง |
|
ขี่ช้างเที่ยว..บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร.. บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกกฝั่งซ้าย หมู่ 2 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย นอกจากชาวกระเหรี่ยงแล้วยังมีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าอาข่าและลาหู่ในระแวกใกล้เคียง หมู่บ้านกระเหรี่ยงเป็นหมู่บ้านขี่ช้างเที่ยวชมหมู่บ้านชาวเขา บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร มีหมู่บ้านบริวาร 1 หมู่บ้าน คือ บ้านดอยบ่อ 2 ( ชนเผ่าอาข่า ) บ้านรวมมิตรมีประชากรทั้งหมด 2,840 คน จำนวนครัวเรือน 1,549 ครัวเรือนประกอบไปด้วย ชนเผ่ากะเหรี่ย,อาข่า,ลาหู่,ลีซอ,ม้ง,ไทลื้อ |
|
การล่องแก่ง (ล่องแม่น้ำกก) การล่องแก่ง เป็นกิจกรรมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชอบการผจญภัย โดยท่านสามารถสัมผัสกับการผจญภัยที่สนุกและสะใจได้โดยการนั่งเรือจากท่าเรือเชียงราย ล่องน้ำกกทวนกระแสน้ำขึ้นไปถึงหมู่ที่ 9 บ้านแม่สลัก ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ. เชียงราย ซึ่งเป็นชาวเขาเผาลาหู, อิ้วเมี่ยน และจีนห้อ และที่นี้แหละเป็นจุดเริ่มของการล่องแก่ง และท่านจะล่องแก่งตามกระแสน้ำมายังจุดท่องเที่ยวที่ 2 คือ หมู่ที่ 10 บ้านจะคือ ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ. เชียงราย |
|
ล่องแพหาดผาขวาง หาดผาขวาง ตั้งอยู่บริเวณ บ้านพนาสวรรค์ หมู่ที่ 13 ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย บ้านพนาสวรรค์มีหมู่บ้านบริวารทั้งหมด 8 บ้าน ได้แก่ บ้านหมอผี (ลาหู่), บ้านอาดี่ (ลาหู่) ,บ้านลอบือ (ลาหู่),บ้านจะสอป่า (ลาหู่),บ้านอาเกอะ ( อาข่า) ,บ้านป่าแล (อาข่า), บ้านห้วยหลุหลวง (ลาหู่ ),บ้านห้วยสักกอง(ลาหู่ ) ประชากรทั้งหมด 2,384 คน จำนวนครัวเรือน 569 ครัวเรือน ระยะทางห่างจากตัวเมือง 30 กม. |
|
ล่องคยัคท่าตอน - เชียงราย KAYAKถ้าคุณต้องการความรู้สึกอิสระบนสายน้ำ ชื่นชอบ กีฬา ทางน้ำ กีฬา พาหนะที่สามารถพาคุณ โลดแล่น ไปบน สายน้ำ ที่ไหลเชี่ยว ได้คือเรือคยัคพาหนะ รูปร่างแปลกตา ที่จะสร้างอิสระท้าทายสายน้ำ สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ มีอิสระเหนือสายน้ำ เราจะพาท่านไปพบกับการล่องลอยกลางสายน้ำและธรรมชาติป่าเขาของเชียงใหม่และเชียงราย แนะนำ ท่านให้รู้จัก กับ การพายเรือ คยัค โดยผู้เชี่ยวชาญ |
|
ดอยดัง..นางแล ดอยดัง..นางแล...ขอเชิญ! นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาท่องเที่ยวใน จังหวัดเชียงราย จังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติมากมายทั้งที่มนุษย์สร้างขึ้นและเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในช่วงฤดูหนาว สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายบางส่วน มีนักท่องเที่ยว จำนวนมากมาเที่ยวชมกันพร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์และรับลมหนาว บรรยากาศแสนโรแมนติกและเย็นสบาย แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ยังไม่มีใครเคยได้สัมผัส เป็นแหล่งท่องเที่ยวบุกเบิกเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวขาลุยทุกท่านที่ต้องการท่องเที่ยวในแดนที่ไม่เคยมีใครไปมาก่อนหรือเรียกได้ว่าเป็นรุ่นบุกเบิกเลยทีเดียว ทางศูนย์ฯขอแนะนำ "ดอยดัง...นางแล" |
|
ล่องเรือแม่น้ำกก (ท่าตอน-เชียงราย) ท่าตอนเป็นหมู่บ้านริมแม่น้ำกก เหนือขึ้นไปจากอำเภอฝาง 24 กิโลเมตร จากเชียงใหม่มีรถประจำทางออกจากประตูช้างเผือกไปลงที่ฝางใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง แล้วจะมีรถสองแถววิ่งประจำระหว่างฝางกับท่าตอน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที มีเรือหางยาวบริการถึงเชียงราย ออกจากท่าตอนเวลา 12.30 น. ถึงเชียงราย 16.30 น. และจากเชียงรายเวลา 10.30 น. ถึงท่าตอน 15.30 น. ระยะทาง 80 กิโลเมตร สามารถนั่งได้ 8 คน สำหรับผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานชมรมเรือบ้านท่าตอน โทร. (053) 459427 |
|
สวนป่าแม่ยาว-แม่ซ้าย สำนักงานอนุรักษ์และพัฒนาสวนป่าเชียงราย ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดอยบ่อ มีภูเขาสูงชัน สลับซับซ้อนมีพื้นที่ราบค่อนข้างน้อย สวนป่าแห่งนี้ตั้งชื่อตามลำห้วยที่ผ่านหน้าสวนขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อากาศเย็นตลอดปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 ได้รับมอบพื้นที่แห่งนี้จากบริษัทเชียงรายทำไม้ จำกัด ปัจจุบันทำการปรับปรุงพื้นที่ตามโครงสร้างขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ปี 2545 ตั้งอยู่บ้านห้วยแม่ซ้าย อยู่ในเขตอำเภอเมือง ห่างจากถนนใหญ่เพียง 20 กิโลเมตร พื้นที่ป่าริมทาง |
แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
วัดพระสิงห์ วัดพระสิงห์เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ มีเนื้อที่ ๔ ไร่ ๒ งาน ๕๒ ตารางวา ตั้งอยู่ที่ถนนสิงหไคล ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย สันนิษฐานกันว่า น่าจะสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช ๑๙๒๘ ในรัชสมัยของพระเจ้ามหาพรหม พระอนุชาของพระเจ้ากือนา เจ้าเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมาครองเมืองเชียงรายระหว่างพุทธศักราช ๑๘๘๘ - ๑๙๔๓ |
|
วัดพระธาตุจอมสัก พระธาตุจอมสัก เดิมชื่อ พระธาตุดอยบ้านยาง เป็นวัดสังกัดมหานิกาย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำกกมากนัก ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 92 ไร่ บริเวณรอบๆ เป็นวัดสวนป่าสัก จึงได้ชื่อว่าวัดพระธาตุจอมสัก จากการสำรวจของหัวหน้ากรมศิลปากรในครั้งนั้นได้ภาพถ่ายทางอากาศของวัดพระธาตุจอมสักมาดู พบว่าบริเวณรอบๆ มีคูน้ำล้อมรอบอยู่ จากหลักฐานทางที่จารึกบนใบลานพบว่า สร้างขึ้นในสมัยโยนกไชยบุรีศรีเชียงแสน |
|
วัดพระแก้ว วัดพระแก้ว เป็นจุดที่ค้นพบพระแก้วมรกต และเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตเป็นเวลา 45 ปี ก่อนที่จะเอิญไปยังเชียงใหม่ วันนี้แต่เดิมวัดนี้มีชื่อว่าวัดป่าเยี้ย หลังพระอุโบสถมีเจดีย์อยู่องค์หนึ่งซึ่งได้พังลงมาแล้วได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทององค์หนึ่งตกลงมาจากเจดีย์จึงได้อัญเชิญไปไว้วิหารหลวงได้ 2 เดือน ต่อมาปูนกระเทาะออกจึงเห็นเป็นแก้วสีเขียวทั้งองค์ หลังจากนั้นวัดนี้จึงเรียกสืบต่อกันมาว่า วัดพระแก้ว ปัจจุบันเจดีย์องค์ดังกล่าวได้รับการบูรณะใหม่เป็นเจดีย์หุ้มทองจังโก๋เหลืองอร่ามทั้งองค์ อ่านต่อ... |
|
วัดร่องขุ่น ออกแบบและสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน ์ ศิลปินที่มีชื่อเสียงของไทย สร้างขึ้นด้วยแรงปณิธานที่มุ่งมั่น รังสรรค์งานศิลปะที่งดงามแปลกตาผสานวัฒนะธรรมล้านนาอย่างกลมกลืน ทั้งลวดลายปูนปั้นประดับกระจกและจิตรกรรรมฝาผนังขนาดใหญ่ ลักษณะเด่นของวัดคือ พระอุโบสถถูกแต่งด้วยลวดลายกระจกสีเงินแวววาวเป็นเชิงชั้นลดหลั่นกันไป หน้าบันประดับด้วยพญานาคมีงวงงาดูแปลกตาน่าสนใจมาก ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถเป็นฝีมือภาพเขียนของอาจารย์เอง |
|
วัดพระธาตุจอมทอง / วัดพระธาตุดอยจอมทอง เดิมเป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่ามีมาก่อนที่พ่อขุนเม็งรายจะมาพบพื้นที่และสร้างเป็นเมืองเชียงราย ในปี พ.ศ. ๑๘o๕ ตามหลักฐานกล่าวว่า เมื่อพระพุทธศาสนาล่วงแล้ว ๙๕๖ พรรษามีพระเถระเจ้ารูปหนึ่งได้ออกเดินทางไปสู่เมืองลังกาทวีป และนำพระบรมสารีริกธาตุ ๓ ขนาดรวม ๑๖ องค์ ถวายแก่พระเจ้าพังคราช เจ้าเมืองโยนกนาคพันธ์ พระองค์ได้แบ่งเป็น พระธาตุขนาดใหญ่หนึ่ง ขนาดกลางสอง รวมสามองค์ ส่งให้พญาเรือนแก้ว เจ้าเมืองไชยนารายณ์ (บริเวณอำเภอเวียงชัยในปัจจุบัน) ส่วนหนึ่งบรรจุลงมหาสถูปบนดอยทอง ขนานนามว่าพระธาตุดอยจอมทอง เพื่อเป็นมงคลนามของเมืองมีพิธีสงน้ำพระธาตุทุกวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ (เดือน ๕ เหนือ) |
|
วัดพระธาตุดอยเขาควาย ตามตำนานพื้นบ้าน เล่าว่า ประมาณ 1,000 กว่าปีล่วงมา ได้มีพระยาธรรมมิกะราช เจ้าผู้ครองเมืองเชียงรายสมัยนั้น เป็นผู้ก่อสร้างวัดพระธาตุดอยเขาควาย ขึ้นมา โดยได้นำพระบรมสารีริกธาตุ อันเป็นข้อมือนิ้วก้อยข้างซ้ายของพระพุทธเจ้าที่คณะสงฆ์เข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในดินแดนล้านนา ได้นำมาถวายให้พระยาธรรมมิกะราช จึงให้อันเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ใส่บรรจุไว้ในองค์เจดีย์ เพื่อให้ พุทธศาสนิกชนทั่วไปได้กราบไว้บูชา ต่อมาได้รับการปฏิสังขรณ์หลายครั้งในสมัยเชียงแสน และสมัยพ่อขุนเม็งรายมหาราช ปัจจุบันในทุกๆปีจะมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุ ในวันเพ็ญเดือนแปดเป็ง ซึ่งตรงกับวันเพ็ญ วิสาขบูชา |
|
วัดพระธาตุจอมจันทร์ พระครูบาทิพย์ เจ้าอาวาสวัดบ้านแหลว เป็นผู้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2453 โดยเห็นนิมิตในคืนหนึ่ง เป็นแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสว่างไสวระยิบระยับสีเขียวบนดอยที่ตั้งขององค์พระธาตุ สักครู่ก็หายไป เช้าวันรุ่งขึ้นพระครูบาทิพย์จึงชวนสามเณรขึ้นไปสำรวจตรวจตราดูบนดอนยแห่งนี้ เห็นว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมแก่การสร้างพระธาตุเจดีย์เป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าดอยแห่งนี้มีคูล้อมรอบ โดยการขุดของคนโบราณ ซึ่งไม่ติดกับดอยลูกใดเลยในบริเวณใกล้เคียงกัน จึงชักชวนญาติโยมสาธุชนทั้งหลายร่วมกันก่อสร้างเจดีย์ |
|
วัดกลางเวียง วัดกลางเวียง คือวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเวียงเชียงราย มีเสาหลักเมืองเชียงรายตั้งอยู่ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 1975 เดิมชาวบ้าน เรียกว่า วัดจั๋นตะโลก หรือ วัดจันทน์โลก เพราะในวัดเคยมีต้นจันทน์แดงขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ ถือเป็นไม้มงคลใช้บูชาพระตามธรรมเนียมโบราณ จนกระทั่งเมื่อมีการรังวัดเมืองเชียงรายใหม่ และพบว่าวัดแห่งนี้อยู่ใจกลางเมืองพอดี จึงได้สถาปนาสะดือเวียง หรือ เสาหลักเมืองขึ้น |
|
วัดพระธาตุดอยกองข้าว ถ้ำดอยกองข้าว หรือ วัดถ้ำดอยกองข้าว ตั้งอยู่บ้านฮ่องอ้อ ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย ห่างจากตัวเมืองเชียงรายไปทางทิศตะวันตก 6 กิโลเมตร (ตรงข้ามหาดเชียงราย) ภายในตัวพระธาตุมีถ้ำที่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นจำนวนมาก ต่อมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีคนลักขโมยขุดเอาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ไปหมด คงเหลือแต่ความสวยงามของโพรงถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยให้ชมอยู่เช่นเดิม ต่อมาชาวบ้านแม่แอบได้นำพระพุทธรูปขึ้นไปประดิษฐานบนยอดเขาและทำทางเดินเท้าขึ้นไปถึงยอดเขา เพื่อให้ชาวบ้านได้ไปสักการะพระพุทธรูปและชมวิวลำน้ำกกที่สวยงาม |
|
วัดงำเมือง วัดงำเมือง เป็นวัดที่เก่าแก่ที่มีความสำคัญเพราะเป็นที่ตั้งของกู่พญามังราย ตั้งอยุ่ถนนอาจอำนวย บ้านฮ่อมดอย (ชุมชนราชเดชดำรง) หมู่ที่1 ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ( อยู่ด้านหลังวัดพระแก้ว) |
|
วัดถ้ำผาจม สิ่งที่น่าสนใจในวัดถ้ำผาจมได้แก่ พิพิธภัณฑ์พระธาตุ ซึ่งได้รวบรวมพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุ อัฐิ เกศา และสิ่งที่เกี่ยวเนื่องด้วยครูบาอาจารย์องค์ต่างๆทั่วประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีปูชนียวัตถุที่สำคัญภายในวัด ได้แก่ หลวงพ่อสายรุ้ง หลวงพ่อทองทิพย์ ซึ่งประดิษฐานภายในถ้ำผาจม เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงเครื่องปั้นดินเผาโบราณในยุคต่าง ๆ ภายในโถงชั้น 3 อาคารปฏิบัติธรรมด้วย |
|
วัดมุงเมือง ตั้งอยู่ถนนอุตรกิจ หมู่ที่1 ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ประวัติ เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปสองสี หรือ พระเจ้าสองสี องค์ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเชียงราย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เครื่องบินทิ้งระเบิดเมืองเชียงรายบริเวณโดยรอบ ซึ่งเป็นตลาดสดแต่ภายในวัดปลอดภัย วัดมุงเมืองเป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2382 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2409 ได้ประกอบพิธีผูกพันทธสีมาเมื่อ 13 มกราคม พ.ศ. 2510 สิ่งสำคัญภายในวัดมี พระเจดีย์และพระสังกัจจาย์ |
|
วัดศรีบุญเรือง ตั้งอยู่ถนนสิงหไคล หมู่ที่ 3 ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ประวัติ เป็นวัดเก่าวัดหนึ่ง สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.1982 ต่อมาเป็นวัดร้าง เมื่อคุ้มเจ้าหลวงได้เปลี่ยนสภาพไปเป็นโรงเรียนดำรงราษฏสงเคราะห์ วัดเชียงหมั้นซึ่งอยู่ในคุ้มหลวง จึงย้ายสิ่งของพร้อมทั้งประธาน มาไว้ที่วัดศรีบุญเรือง วัดนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2489 อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ หอฉัน หอระฆัง ศาลาพักร้อน |
|
วัดป่าดอยพระบาท วัดป่าดอยพระบาท ตั้งอยู่บนดอยพระบาท หมู่ 7 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นวัดที่ประชาชนให้ความสำคัญมาก เป็นสถานที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาท ประทับบนก้อนหินใหญ่ อยู่บนเนินเขา พบครั้งแรกในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 โดยทหาร เดิมรู้แต่เพียงว่าเป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่บริเวณนี้ เชื่อว่าสร้างในสมัยพ่อขุนเม็งรายมหาราช เดิมชื่อวัดป่าดอยพระบาท จากการพบรอยพระพุทธบาทและได้บูรณะปฏิสังขรณ์ทำให้พบศิลาแลง |
|
วัดมิ่งเมือง ตั้งอยู่ถนนไตรรัตน์ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ด้านข้างติดถนนบรรพปราการ ประวัติ วัดมิ่งเมือง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2513 เป็นวัด ไทใหญ่ สมัยก่อนมีชุมชนไทยใหญ่อยู่เรียกว่า วัดเงี้ยว หรือ วัดช้างมูบ (ช้างมอบ) การก่อสร้างตามชาวบ้านศรัทธาเล่าว่า ผู้สร้างวัดมิ่งเมือง ชื่อ ตะแม่ศรี มีศักดิ์เป็นมเหสีของพ่อขุนฯ เป็นชาวพม่า เวลานี้มีการบูรณะเจดีย์โบราณของวัด พบจารึกบนแผ่นเงินจารึกเป็นภาษาพม่า แปลออกมาเป็นผู้สร้างจากเจดีย์ โบราณในวัด ภาษายังมีปรากฏอยู่เป็นศิลปะผสมระหว่างพม่าและล้านนา |
แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ หอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ เป็นเสมือนประตูเปิดสู่โลกอันลึกลับของพืชชนิดนี้ จากความมืดมนน่าหวาดกลัว สู่ความแจ่มจรัสและรู้แจ้ง พื้นที่ 5,600 ตารางเมตรแสดงลำดับเรื่องราวของฝิ่น โดยเริ่มจาธรรมชาติวิทยาของฝิ่น การสืบประวัติการใช้ฝิ่นในยุคโบราณกลับไป 5,000 ปี ประวัติการแพร่กระจายของฝิ่นจากการค้าสมัยจักรวรรดินิยม เหตุการณ์พลิกประวัติศาสตร์ที่สร้างความอดสูแก่ผู้ชนะและผู้แพ้สงครามฝิ่นอันนำไปสู่การล่มสลายของราชวงค์แมนจู ความชาญฉลาดของประเทศสยามในการเผชิญกับมหาอำนาจตะวันตกและการควบคุมปัญหาฝิ่น |
|
พิพิธภัณฑ์อูบคำ ศูนย์อนุรักษ์มรดกอันล้ำค่าของอาณาจักรล้านนาโบราณ และความหลากหลายของเสื้อผ้า และอาภรณ์ของชนชาติไตเผ่าต่าง ในอาณาจักรล้านนา ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะอนุรักษ์ความเป็นมาอันยิ่งใหญ่ของชาวล้านนา ทำให้ อาจารย์จุลศักดิ์ สุริยะไชย จึงได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์อูบคำเพื่อเป็นศูนย์อนุรักษ์มรดกล้ำค่าของอานาจักรล้านนาโบราณ เช่นเครื่องใช้ในราชสำนักล้านนา เครื่องใช้ในราชสำนักคุ้มเจ้าต่างๆ ในล้านนา เช่น คุ้มเจ้าแพร่ คุ้มเจ้าเชียงใหม่ คุ้มเจ้าน่าน ฯลฯ ผ้าโบราณ อายุ 200 ปี ซึ่งเกิดจากการตั้งใจของผู้รวบรวมที่ต้องการเก็บของมีค่าสมัยล้านนาที่กระจายอยู่ในที่ต่างๆ ให้คืนกลับสู่แผ่นดินไทย และเพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไปในอนาคต |
|
พิพิธภัณฑ์ชาวเขา พิพิธภัณฑ์ชาวเขา ตั้งอยู่ที่ ชั้น3 อาคารสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนจังหวัดเชียงราย ถนนธนาลัย ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย (เยื้องสวนตุงและโคมเชียงราย) ดำเนินงานโดยสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนจังหวัดเชียงราย จัดแสดงและจัดฉายสไลด์โชว์วิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัตถุสิ่งของเครื่องมือ เครื่องใช้ ชุดแต่งกายประจำเผ่า รวมทั้งข้อมูลที่น่ารู้เกี่ยวกับชาวไทยภูเขา 6 เผ่า คือ อาข่า ลีซอ กะเหรี่ยง มูเซอ เย้า และม้ง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน เวลาา 9.00 น.-18.00 น. เก็บค่าเข้าชมคนละ 50 บาท |
|
พิพิธภัณฑ์รอยพระบาท รัชกาลที่ 9 เริ่มจากสถานการณ์ก่อการร้ายในจังหวัดเชียงราย ในปี 2497 พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ได้ส่งผู้ปฏิบัติงานจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าสู่ภาคเหนือของประเทศไทย เพื่อแสวงหาแนวร่วมพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวเขาที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน จ.เชียงราย และ จ.น่าน รวมทั้งพื้นที่ชายแดนด้าน จ.พะเยา ในปัจจุบันบางส่วน ภายหลังจากสามารถปลุกระดมชาวเขาได้บางพื้นที่จนสำเร็จในปี พ.ศ. 2507 |
|
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน ตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงแสน เลขที่ 702 ถ. พหลโยธิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นแหล่งรวบรวมโบราณวัตถุที่ได้มาจากบริเวณเมืองโบราณเชียงแสนและพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ลวดลายปูนปั้นฝีมือล้านนา พระพุทธรูปและศิลาจารึกจากเชียงแสนและจากจังหวัดพะเยา พร้อมทั้งให้ข้อมูลทางด้านวิชาการเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดี การตั้งถิ่นฐานของชุมชน และประวัติการสร้างเมืองเชียงแสน นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงศิลปะพื้นบ้านของชาวไทยใหญ่ ไทยลื้อและชาวเขาเผ่าต่างๆ เช่น เครื่องเขิน เครื่องดนตรี เครื่องประดับ เป็นต้น |
|
พิพิธภัณฑ์บ้านฝิ่น พิพิธภัณฑ์บ้านฝิ่น ตั้งอยู่ที่ 212 ม.1 ต.เวียง เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นสถานที่จัดแสดงเครื่องมือและเครื่องใช้ในการสูบฝิ่นของผู้คนในอดีต มีทั้งประวัติของสามเหลี่ยมทองคำ สถานที่ ปลูกฝิ่นการปลูกและสูบฝิ่น ตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้สูบฝิ่นแสดงให้ชม ส่วนชั้นล่างของบ้านฝิ่นเป็นสถานที่ขายของที่ระลึก |
|
พิพิธภัณฑ์พระ-ประทีปโกลด์แลนด์ ....หนึ่งเดียวในโลก.....ชมสุดยอดพระเครื่องเบญจภาคี....พระเครื่องชุดเบญจสุดยอดขุนพล, พระร่วงรางปืน, พระสมเด็จวัดระฆังทุกพิมพ์, พระกริ่งปวเรศ (1 ใน 22 องค์ของประเทศไทย), กริ่งจีน, กริ่งเขมร, พระกริ่งวัดสุทัศน์, พระกริ่งวัดบวร, สมเด็จพระจิตรลดา, หลวงปู่ทวดทุกพิมพ์, เหรียญพระเกจิชื่อดังต่างๆ อาทิเช่น หลวงพ่อกลั่น, เหรียญ ร. 5 แบบต่างๆ และพระอื่นๆให้ชมอีกมากกว่า 2,000 องค์ |
|
พิพิธภัณฑ์พระธาตุ วัดถ้ำผาจม จ.เชียงราย วัดถ้ำผาจมเป็นวัดที่เรียกได้ว่า อยู่เหนือสุดของประเทศ ที่ตั้งวัดอยู่ใกล้ท่าขี้เหล็ก และมีอาณาเขตอยู่ติดกับประเทศพม่า โดยวัดตั้งบนภูเขาที่เรียกกันว่าเทือกเขานางนอน มีการเปิดอบรมปฏิบัติธรรมกรรมฐาน โดยหลวงพ่อวิชัย เขมิโย ตลอดทั้งปี ภายในบริเวณวัดเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ สถานที่สะอาด บรรยากาศร่มรื่น วัดไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น วัดพระธาตุดอยเวา ตลาดแม่สาย ฯลฯ |
|
อนุสรณ์สถานสามผู้กล้า (พ.ต.ท.) อนุสรณ์สถานสามผู้กล้า (พ.ต.ท.) พลเรือน ตำรวจ ทหาร ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยกว๊าน หมู่ที่ 9 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นอนุสรณ์สถาน สร้างขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีและความกล้าหาญ ความเสียสละเพื่อบ้านเมืองของ นายประหยัด สมานมิตร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย , พลตำรวจโทศรีเดช ภูมิประหมัน อดีตผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย, และพลโทจำเนียง มีสง่า อดีตผู้ช่วยหัวหน้ากองข่าวกองทัพภาคที่ 3 โดยกำหนดการจัดพิธี การวางพวงมาลา ณ อนุสรณ์สถานสามผู้กล้า ในวันที่ 20 กันยายน ของทุกปี |
|
เมืองโบราณเวียงกาหลง เมืองโบราณเวียงกาหลง ตั้งอยู่บ้านป่าส้าน หมู่ที่ ๕ ตำบลเวียงกาหลง ห่างจากเส้นทางหลักสายเชียงใหม่ - เชียงราย แยกเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข ๑๐๓๕ ไปทางอำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง ประมาณ ๓ กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าสู่เมืองโบราณเวียงกาหลง เมืองโบราณเวียงกาหลง ตั้งอยู่บนเนินดิน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ . ศ . ๔๙๙ – ๕๐๐ ในปัจจุบันมีสิ่งที่พอจะเห็นได้คือ แนวกำแพงเมืองชั้นนอกและชั้นใน และสิ่งที่สำคัญที่พบในบริเวณใกล้เคียง คือเตาเผาเครื่องเคลือบดินเผา ซึ่งมีลักษณะเฉพาะ เรียกว่า “ เตาแบบเวียงกาหลง ” |
|
เวียงพางคำ เวียงพางคำ ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย บริเวณรอบที่ว่าการอำเภอแม่สายทั้งสองฟากถนนพหลโยธิน แนวเขตด้านเหนืออยู่ห่างจากชายแดนติดต่อกับอำเภอท่าขี้เหล็กของสหภาพพม่าประมาณ ๑ กิโลเมตรเศษ ส่วนแนวเขตด้านใต้อยู่ใต้ที่ว่าการอำเภอประมาณ ๖๐๐ เมตร ส่วนด้านตะวันออกและตะวันตกของถนนนั้น มีแนวกำแพงเดิมห่างจากถนนด้านละประมาณ ๕๐๐ - ๖๐๐ เมตร ตามความโค้งของถนน |
|
เวียงหนองล่ม เวียงหนองหล่ม ตั้งอยู่ที่เขตติดต่อระหว่างตำบลโยนก อำเภอเชียงแสน กับตำบลจันจว้าอำเภอแม่จัน จากหลักฐานที่ได้จากการสำรวจ สันนิษฐานว่าอยู่ระหว่างยุคหินใหม่ ถึงไม่เกินพุทธศตวรรษที่ ๑๙ ตำนานและพงศาวดารหลายเล่มกล่าวตรงกันว่า เจ้าชายสิงหนวัติ พาผู้คนมาหาที่ตั้งเมือง พอมาถึงแม่น้ำโขง ก็พบนาคจำแลงเป็นชายมาบอกสถานที่สร้างเมือง จึงตั้งเมืองโยนกนาคพันสิงหนวัติ โดยเอาชื่อองค์ผู้สร้างเมืองรวมกับชื่อนาค หรือโยนกนครหลวง |
|
เมืองโบราณเชียงแสน เชียงแสน เคยเป็นศูนย์กลางอาณาจักรล้านนาในยุคแรก ๆ และเป็นเมืองเก่าแก่มากแห่งหนึ่งในภาคเหนือ เดิมชื่อเวียงหิรัญนครเงินยาง แม้ปัจจุบันยังมีซากกำแพงเมืองโบราณ 2 ชั้น และโบราณสถานหลายแห่ง ปรากฏอยู่ในทั้งในและนอกตัวเมือง ภายในเขตกำแพงเมืองเก่าประกอบด้วยวัดร้างและโบราณสถานที่สร้างในระหว่างพุทธศตวรรษที่ 18-21 สลับกับบ้านเรือนชาวบ้าน การเที่ยวชมควรเริ่มต้นจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน ใกล้กับประตูป่าสัก ติดกันเป็นวัดเจดีย์หลวง ฝั่งตรงข้ามจะเป็นศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวเชียงแสน จากจุดนี้สามารถไปเที่ยวชมโบราณสถานต่าง ๆ ได้ในรัศมีไม่เกิน 1.5 กิโลเมตร |
|
เมืองโบราณดงเวียงแก่น เมืองโบราณดงเวียงแก่น ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 บ้านม่วง ตำบลม่วงยาย อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย อยู่ห่างจากตัวอำเภอเวียงแก่น ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 200 เมตร เป็นเมืองโบราณ ตั้งอยู่บนเนินสูงราว 30 – 35 เมตร เนื้อที่ประมาณ 286 ไร่ 1 งาน 86.09 ตารางวา เป็นพื้นที่ป่ารกทึบ มีพืชพันธุ์ทางธรรมชาติ สมุนไพร และสัตว์ป่านานาชนิด ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว เป็นพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลม่วงยาย |
|
พระพุทธนวล้านตื้อ พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน พลิกฟื้นพระเจ้าล้านตื้อ ประวัติศาสตร์ลำน้ำโขงของเมืองเชียงแสน ลำน้ำโขงเป็นสายน้ำใหญ่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนสองฝากฝั่ง สายน้ำไหลเชี่ยว ดุดัน จากจีน มุ่งผ่าน พม่า ไทย ลาว เวียดนาม และกัมพูชา ประวัติศาสตร์ ของชาติต่างๆ ในลุ่มแม่น้ำโขง จึงหนีไม่พ้นสายน้ำแห่งนี้
|
แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร
อ่างเก็บน้ำวอง อ่างเก็บน้ำวอง ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 บ้านยายเหนือ ตำบลม่วงยาย อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เป็นแหล่งเก็บน้ำทางธรรมชาติขนาดใหญ่ เป็นต้นน้ำทางการเกษตรของเกษตรกรตำบลม่วงยายและตำบลใกล้เคียง และยังเป็นสวนสาธารณะที่พักผ่อนที่สวยงาม เป็นธรรมชาติมากอีกแห่งหนึ่งของตำบลม่วงยาย เป็นพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลม่วงยาย กลุ่มเลี้ยงปลาในกระชัง |
|
รวมหมู่บ้านชาวเขา และหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว จ.เชียงราย เที่ยวชม - อาข่า เย้า ลีซอ กะเหรี่ยงคอยาว กะเหรี่ยง ลาหู่ - บริการที่พักแบบ Home Stay - ศึกษาวัฒนธรรม - ศึกษาการเพาะปลูก/เกษตรกรรม/การทำนา - บริการที่พักแบบกางเต้นท์ Camping ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม แวดล้อมด้วยความเป็นอยู่ของชาวเขาเผ่าต่างๆ - นั่งเกวียน |
|
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน ราษฎรในพื้นที่ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม ปลูกข้าวไร่ ข้าวโพด และฝิ่น แต่ขาดความรู้และความเข้าใจในเรื่องการเกษตร นอกจากมีการบุกรุกผืนป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอยแล้ว ยังไม่รู้จักการดูแลรักษาแหล่งน้ำอันเป็นทรัพยากรสำคัญ จึงก่อให้เกิดปัญหาตามมาทุกปี กระทั่งปี พ.ศ. 2525 ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำรินจึงได้ถูกจัดขึ้นในพื้นที่ 50 ไร่ ครอบคลุม 4 หมู่บ้าน ประชากรมีชาวเขาเผ่ามูเซอ และคนพื้นเมืองอาศัยอยู่ โดยจัดหาแนวทางการทำมาหากินให้กับชาวบ้านทดแทนการปลูกฝิ่น อาทิ พืชไร่ ผัก ผลไม้เมืองหนาว ที่ให้ผลคุ้มค่ากว่า ซึ่งเมื่อปฏิบัติตามแนวทางโครงการหลวง ชาวบ้านจึงมีความเป็นอยู่ดีขึ้นเช่นทุกวันนี้ |
|
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ปูนหลวง ด้วยภูมิประเทศมีลักษณะเป็นภูเขามีความเขียวชอุ่มอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้และทรัพยากรมากมายแต่ได้ถูกทำลายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ให้แปรสภาพไปเป็นไร่ฝิ่นที่มีอาณาบริเวณกว้างไกลถึง 1,400 ไร่ราษฏรมีรายได้จากการปลูกฝิ่นจำนวนมาก แต่ทุกครัวเรือนก็ยังมีปัญหาในด้านชีวิตความเป็นอยู่สุขภาพอนามัยเสื่อมโทรมเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสในการศึกษา พ.ศ.2523 มูลนิธิโครงการหลวง จึงได้ตั้ง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ปูนหลวงขึ้น เดิมตั้งอยู่ที่บ้านแม่ปูนหลวง ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เนื่องจากการคมนาคมไม่สะดวก จึงได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านขุนแจ๋ ต.แม่แวน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ.2527 จนถึงปัจจุบัน มีพื้นที่รับผิดชอบเดิมประมาณ 26.68 ตารางกิโลเมตรและอยู่ระหว่างขอขยายเพิ่มเติม 45.20 ตารางกิโลเมตร โดยอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1000-1400 เมตร |
|
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำขุ่น กุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช 2526 ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยร่องขุ่น จัดตั้งบนอาณาบริเวณ 20 ไร่ ในเขตหมู่บ้านห้วยขุ่น ครอบคลุมพื้นที่ 3,000 ไร่ เพื่อส่งเสริมการปลูกพืชทางการเกษตรแก่เกษตรกรชาวเขาในพื้นที่ตามแนวทางวิทยาการแผนใหม่ทดแทนฝิ่น เป็นการช่วยยกระดับความเป็นอยู่ให้แก่ราษฎรในท้องถิ่น โดยทางศูนย์ ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย อาทิ สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 6 ช่วยส่งเจ้าหน้าที่มาทำการปรับพื้นที่ และให้คำปรึกษาแนะนำส่งเสริมด้านการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นผู้ทำวิจัยเรื่องชา กรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ และใน พ.ศ. 2528 สำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท จังหวัดเชียงรายได้ตัดถนนเข้าสู่หมู่บ้านเพื่อความสะดวกในการขนส่ง |
|
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยแล้ง สัมผัสลมหนาว เฝ้าชมทะเลหมอก ไม้ดอกตระการตา" คราวสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนมถวิลจินตมัย ตำบลท่าข้าม อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2539 ในโอกาสนั้น นายจงนึ่ง ศักดิ์สิทธานุภาพผู้ใหญ่บ้านห้วยแล้งหมู่2ได้มีหนังสือกราบบังคมทูลขอพระราชทานความช่วยเหลือจากโครงการหลวงเพื่อสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับราษฎรในพื้นที่เป็นการเพิ่มรายได้แก่ครอบครัว ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยแล้งจึงถือกำเนิดขึ้นใน พ.ศ.2542 |
|
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงสะโง๊ะ การดำเนินงานของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สะโง๊ะเริ่มต้นในรูปของงานอาสาพัฒนาชาวเขา ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมูลนิธิโครงการหลวงและมหาวิทยาลัยแม่โจ้ แต่เนื่องจากการคมนาคมที่ไม่สะดวก เจ้าหน้าที่ต้องเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์เพียงเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น เมื่อไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำงานส่งเสริมของศูนย์จึงไม่เต็มประสิทธิภาพนัก จนปี พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่และทรงมีพระราชดำรัสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลช่วยเหลือชาวบ้านดอยสะโง๊ะ |
|
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยโป่ง ก่อตั้งขึ้นในปีพุทธศักราช 2525 บนพื้นที่ 75 ไร่ โดยมีคณะทำงานประกอบด้วย สถาบันวิจัยชาวเขา จังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัดเชียงใหม่ และคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดำเนินงานโครงการวิจัยวิธีการส่งเสริมเกษตรที่สูง และทำการทดลองพืชไร่ พืชผัก ไม้ดอก ไม้ผล เสาะหาพันธุ์พืชที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และภูมิอากาศ เพื่อนำไปส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกร เดือนกุมภาพันธ์ 2527 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จเยี่ยมศูนย์ เป็นครั้งแรก สำหรับงานวิจัยได้ดำเนินต่อเนื่องมากระทั่งปี พ.ศ. 2530 จึงเริ่มดำเนินการส่งเสริมด้านการเกษตรมาจนถึงปัจจุบัน ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยโป่ง ตั้งอยู่ในเขตบ้านห้วยโป่ง |
|
ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยหัวแม่คำ จิบชาและรื่นรมย์กับธรรมชาติ…. เพลินตากับดอกบัวตองที่บานเหนือดอยหัวแม่คำ" ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยหัวแม่คำ ตั้งอยู่ บนดอยหัวแม่คำ ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง เป็นศูนย์ฯที่ส่งเสริมให้ชาวบ้านสร้างรายได้โดยการปลูกไม้เมืองหนาว เช่น ดอกลิลลี่ ดอกแกลดิลัส เยอร์บิรา ทิวลิป ชมการตัดดอก การบรรจุเพื่อจำหน่าย และหากสนใจไปชมไร่ชาก็เพียงติดต่อให้เจ้าหน้าที่นำทางไปให้ไม่ไกลกันนัก ที่หมู่บ้านพยาไพร ซึ่งเป็นแหล่งปลูกชาใหญ่รองจากดอยวาวี นอกจากนี้ ศูนย์ฯมีบ้านพัก (ไม่เกิน 35 คน) และสถานที่กางเต็นท์ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว |
|
ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาหม่น ที่ตั้ง ดอยผาหม่น อำเภอเทิง เป็นศูนย์ส่งเสริมการเพาะปลูกดอกไม้เมืองหนาว เช่น ดอกทิวลิป ดอกลิลลี่ ดอกซัลเวียสีแดง ต้นคริสต์มาสสีแดง หลากสีหลายพันธุ์ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวดอกไม้จะออกดอกสวยงามเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชม รอบบริเวณยังมีทิวทัศน์สวยงามดูแล้วสดชื่นท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น ศูนย์ฯ มีบ้านพักบริการนักท่องเที่ยว 3 หลัง ราคา 1,200 บาท/หลัง พักได้หลังละ 10–15 คน ไม่มีร้านจำหน่ายอาหาร ต้องสั่งจองล่วงหน้า |
|
ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตเชียงราย 2 หรือ สถานีทดลองเกษตรที่สูงวาวีเดิม ที่ตั้ง บนยอดดอยวาวี สูงจากระดับน้ำทะเล 1,200-1,500 เมตร อากาศเย็นสบายตลอดปี ทำให้ ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตเชียงราย 2 หรือ สถานีทดลองเกษตรที่สูงวาวีเดิม ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งศึกษาดูงานและท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย ด้วยบรรยากาศภายในบริเวณศูนย์ฯที่ร่มรื่น รายล้อมไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว เช่น ต้นโปรเดีย แบงค์เซีย ซากุระ ที่แย้มดอกสวยสดงดงาม แปลกตาอยู่ทั่วไป ทั้งยังอบอวลด้วยกลิ่นหอมของไม้หอมเมืองหนาวนานาชนิด เช่น |
|
ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่ตั้ง ตำบลศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ตั้งอยู่ระหว่าง หลักกิโลเมตร ที่ 863-865 ถนนพหลโยธิน สายแม่จัน-แม่สาย มีสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านการเกษตร และทางธรรมชาติหลายแห่ง สามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยว อื่นได้ง่าย เช่น ดอยตุง อ.แม่สาย อ.แม่สลอง อ.เชียงราย |
|
สถานีเกษตรที่สูงตามแนวพระราชดำริ บ้านปางขอน สถานีเกษตรที่สูงตามแนวพระราชดำริ บ้านปางขอน ตั้งอยู่บริเวณบ้านปางขอน หมู่ที่ 7 ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ. เชียงราย จากที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงรายไปทางน้ำตกขุนกรณ์ระยะทางโดยประมาณ 45 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนยอดดอยเกี๊ย อากาศเย็นตลอดทั้งปี และยังเป็น แหล่งเพาะปลูกพืชผักและดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด สำหรับท่านที่ต้องการทานผักสดๆ |
|
สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ดอยบ่อ โครงการพระราชดำริ..ดอยบ่อ ของพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวเขา ให้ได้รับการเรียนรู้เกษตรแผนใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาการทำไร่เลื่อนลอย จัดสรรที่ทำกินที่เหมาะสม ที่สามารถทำการเกษตรได้ทั่วทั้งปี มีระบบน้ำที่เอื้อต่อการเกษตร ชาวบ้านที่มาร่วมในโครงการจะเริ่มจากหมู่บ้านไกล้เคียงหลังจากนั้นจะทยอยขยายสู่หมู่บ้านที่ไกลออกไปตามลำดับ ภายในโครงการพระราชดำริ ได้รับความร่วมมือจากหลายๆ |
|
หมู่บ้านไหมไทยเฉลิมพระเกียรติ บ้านสันธาตุ หมู่บ้านไหมไทยเฉลิมพระเกียรติ บ้านสันธาตุ ต.โยนก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย บ้านสันธาตุ หมู่ 4 ต.โยนก อ.เชียงแสน จงเชียงราย อยู่ห่างจากถนนสายหลักเชียงราย-เชียงแสน (ก่อนถึงอำเภอเชียงแสนประมาณ 10 กิโลเมตร) บริเวณบ้านสันต้นเปา เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงชนบท สายดอยจัน-ท่าข้าวเปลือก ประมาณ 9 กิโลเมตร จากทางแยกก่อนถึงบ้านสันธาตุ ผ่านบ้านสันต้นเปา หมู่6, บ้านดอยจัน หมู่1, บ้านร่องบง หมู่2 |
แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
วัดพระธาตุดอยกองข้าว ถ้ำดอยกองข้าว หรือ วัดถ้ำดอยกองข้าว ตั้งอยู่บ้านฮ่องอ้อ ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย ห่างจากตัวเมืองเชียงรายไปทางทิศตะวันตก 6 กิโลเมตร (ตรงข้ามหาดเชียงราย) ภายในตัวพระธาตุมีถ้ำที่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นจำนวนมาก ต่อมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีคนลักขโมยขุดเอาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ไปหมด คงเหลือแต่ความสวยงามของโพรงถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยให้ชมอยู่เช่นเดิม ต่อมาชาวบ้านแม่แอบได้นำพระพุทธรูปขึ้นไปประดิษฐานบนยอดเขาและทำทางเดินเท้าขึ้นไปถึงยอดเขา เพื่อให้ชาวบ้านได้ไปสักการะพระพุทธรูปและชมวิวลำน้ำกกที่สวยงาม |
|
ทะเลสาบเชียงแสน หรือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบ่งคาย เขตห้ามล่าสัตว์ป่า หนองบงคาย (ทะเลสาบเชียงแสน) อำเภอเชียงแสน (Nong bong khai non-hunting area) ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม |
|
วัดถ้ำผาจรุย อำเภอป่าแดด เป็นเมืองเกษตรกรรม มีความเป็นธรรมชาติและมีวิถีวัฒนธรรมแบบสังคมเกษตร ผู้คนมีจิตใจโอบอ้อมอารี แม้อำเภอป่าแดดจะมีสถานที่ท่องเที่ยวไม่มากนัก แต่ทว่า สถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่น้อยแห่งนั้นก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้สนใจเดินทางมาเที่ยวที่อำเภอนี้ได้ไม่ยากนัก เช่นเดียวกันกับที่ถ้ำผาจรุย แหล่งท่องเที่ยวของอำเภอป่าแดดที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของอำเภอป่าแดดที่ อยากแนะนำและเชิญชวนให้ท่านได้แวะเวียนเข้ามาเที่ยวชมความงดงามของถ้ำและนมัสการกราบไหว้พระพุทธรูปอันศักดิ์ ณ ถ้ำแห่งนี้ |
|
ถ้ำผาจม ลักษณะวัดถ้ำผาจมวัดถ้ำผาจมนั้นตั้งอยู่ในหุบเขาและอยู่ในแนวนอนเทือกเขาเขาลูกนี้เป็นรูปผู้หญิงนอนหงายสยายผมไปทางประเทศพม่า ฉะนั้น วัดถ้ำผาจมจึงอยู่ปลายผม เมื่อมองไปทางทิศตะวันออกจะเห็นพระธาตุดอยเวา ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร และจะเห็นเทือกเขาเป็นคุ้งมังกรสวยงามมาก สถานที่ที่วัดถ้ำผาจมตั้งอยู่นั้น เป็นช่วงปากของมังกร มีธรรมชาติรอบบริเวณวัดสวยงาม สงบ ข้าพเจ้าผู้เรียบเรียง ได้เคยไปประเทศอินเดียเมื่อขึ้นไปบนภูเขาคิชณกูฎ มองลงมายังกรุงราชคฤห์เก่า |
|
โบราณสถานถ้ำพระ โบราณสถานถ้ำพระ ตั้งอยู่บริเวณ หมู่ 5 บ้านป่าอ้อ ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย (อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองเชียงราย ประมาณ 6 กม.) อยู่ริมแม่น้ำกกตรงข้ามกับหาดเชียงราย ลักษณะเป็นภูเขาหินลูกเดียว สูงประมาณ 800 เมตร ถ้านั่งเรือผ่านสามารถมองเห็นทัศนียภาพบริเวณโดยรอบภายนอกถ้ำ ภายในถ้ำพระมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นพระประธาน และยังมีพระพุทธรูปบูชาอีกหลายองค์ นอกจากนี้ในถ้ำยังมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม และมีค้างคาวอยู่จำนวนมาก นอกจากถ้ำพระแล้วภายในภูเขาหินลูกนี้ ยังมีถ้ำอื่น ๆ อีก คือ ถ้ำช้างล้วง ถ้ำลม และถ้ำหวาย |
|
ถ้ำปุ่ม-ถ้ำปลา (อ.แม่สาย) - ถ้ำปลา ตั้งอยู่ บ้านโป่งงาม ต.โป่งงาม อ.แม่สาย ลักษณะเป็นลำธารเล็กๆไหลออกจากใต้ภูเขาหินปูน ไหลทะลุผ่านภูเขาหลายเส้นทางโดยไหลออกทางหน้าปากถ้ำด้านทิศตะวันออกสายน้ำเหล่านี้มีต้นกำเนิดมาจากน้ำตกห้วยเนี้ย ถ้ำนี้วัดความกว้างได้ประมาณ 2.50 เมตร ความสูงวัดจากฝั่งน้ำขึ้นไป สูงประมาณ 1.50 เมตร น้ำลึกประมาณ 0.50 เมตร ซึ่งบริเวณนี้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่อยู่ของปลาดั้งเดิม คือ ปลาพวงเงิน ปลาไม้หีบ ตลอดจนปลาที่นักท่องเที่ยวนั้นนำมาปล่อย ได้แก่ ปลาดุก ปลาคร๊าฟ ปลาไหล ปลาทับทิม เต่า ปลาเงินปลาทอง ปลาไน ฯลฯ |
|
ถ้ำน้ำลอด ตั้งอยู่ ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย มีลักษณะเป็นถ้ำเชิงเขา มีธารน้ำไหลออกจากถ้ำตลอดปี มีนักท่องเที่ยวตลอดปี |
|
ถ้ำพระผางาม ตั้งอยู่ ตำบลผางาม อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย เป็นสถานที่ปฎิบัติธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เนื้อที่ 300 ไร่ เหมาะสำหรับปฎิบัติธรรมและพักผ่อน |
|
ถ้ำผายาว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามมาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าไปชมความงามภายในถ้ำ โดยจะต้องเดินทางเท้าเข้าไปเท่านั้น ปากทางเข้าถ้ำจะอยู่บนยอดเขาและทางเดินขึ้นไป เมื่อเข้าไปในถ้ำจะต้องลอดเข้าไปประมาณ 10 เมตร ภายในถ้ำมีขนาดกว้างใหญ่มาก ซึ่งมีลักษณะคล้ายท้องพระโรงที่ยังคงสภาพสวยงามมาก และมีหินย้อย บางจุดเป็นเสาเดี่ยว บางจุดเป็นเสาคู่มีลักษณะคล้ายหัวสัตว์ และมีอยู่จุดหนึ่งมีลักษณะคล้ายอ่างเลี้ยงปลา บริเวณโดยรอบยังคงสภาพป่าและเขาที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ |
|
ถ้ำผาโขง ถ้ำผาโขง (อ.พาน) อยู่ที่บ้านปางเกาะทราย หมู่ที่ 6 ต.ป่าหุ่ง ห่างจาก อ.พานประมาณ 15 กม. โดยผ่านหลังที่ว่าการ อ.พานไปทางทิศตะวันตก เป็นพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลป่าหุ่ง และเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพานไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางประมาณ 15 กิโลเมตร และถนนลูกรังอีก 1 กิโลเมตร ลักษณะ เป็นถ้ำหินปูน มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี |
|
ถ้ำหลวงแม่สรวย อยู่ในเขตตำบลแม่สรวย อำเภอแม่สรวย ตัวถ้ำตั้งอยู่บนกลุ่มดอยแม่สรวย ซึ่งอยู่หลายสิบลูก ดอยลูกนี้สูงประมาณ 500 เมตร จากพื้นราบ ปากถ้ำอยู่ทางทิศใต้ตรงใต้สุดของดอย ปากถ้ำแคบมากกว้างเพียงประมาณ 50 เซนติเมตร ความแคบดังกล่าวนี้ยาวประมาณ 4 เมตร ดังนั้นการเข้าไปในถ้ำจึงต้องใช้วิธีคลานเข้าไป ปัจจุบันสภาตำบลแม่สรวย ได้ทำการระเบิดปากถ้ำให้กว้างขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย พอให้คนเข้าไปโดยวิธีก้มตัวทีละคน ผ่านช่องนี้ไปแล้ว จะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ จุคนได้หลายร้อยคน |
|
ถ้ำผาวี (ภาษาพื้นบ้านเรียกว่า ถ้ำ สามหน้า) ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย เป็นพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลป่าหุ่งและเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพานไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางประมาณ 15 กิโลเมตร จากนั้นจะเป็นถนนลูกรัง และเดินไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วเดินไต่ขึ้นไปจนถึงหน้าถ้ำอีก 100 เมตร ประมาณ 10-15 นาที ลักษณะเป็นถ้ำหินปูน ข้างในถ้ำมีหินงอก หินย้อย |
|
ถ้ำพระ-ถ้ำลม (อ.พาน) อยู่ในเขตตำบลธารทอง อำเภอพาน ตั้งอยู่บนกลุ่มดอยเตี้ย ๆ สูงไม่เกิน 200 เมตร มีดอยอยู่ 4 - 5 ดอย อยู่ในบริเวณเดียวกัน ห่างกันไม่เกินสองกิโลเมตร ทอดตัวยาวไปตามทิศเหนือ-ใต้ ยาวประมาณ หนึ่งกิโลเมตร ตัวถ้ำอยู่ทางด้านเหนือสุดของดอย หน้าถ้ำเป็นลานกว้างประมาณ 3 ไร่ มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่หลายต้นทำให้บริเวณร่มรื่น ถ้ำทั้งสองอยู่ใกล้กัน ถ้ำแรกอยู่สูงจากระดับพื้นดินประมาณ 5 เมตร ปากถ้ำกว้างประมาณ 4 เมตร สูงประมาณ 2 เมตร ตัวถ้ำลึกประมาณ 18 เมตร ตัวถ้ำกว้างไปทางด้านข้างจุคนได้ |
|
ถ้ำ (อ.เวียงแก่น) ตั้งอยู่ที่ ตำบลม่วงยาย อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย อยู่ห่างจากตัวอำเภอไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทางธรรมชาติ เช่น ถ้ำห้วยจ้อ ถ้ำห้วยหิน ถ้ำผาบู่ ถ้ำผาช่องไทร เป็นพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลม่วงยาย |
|
น้ำตกห้วยแก้ว น้ำตกห้วยแก้ว ตั้งอยู่บริเวณบ้านโป่งน้ำร้อน หมู่ที่ 7 ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย ห่างจากบ่อน้ำร้อนห้วยหมากเลี่ยม 6.5 กม. เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำไหลแรงตลอดปี และห่างจากตัวเมืองเชียงราย 25 กม. ยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก หากเข้าไปชมน้ำตกควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางจากบ่อน้ำร้อนห้วยหมากเลี่ยม เตรียมน้ำและอาหารไปด้วย น้ำตกห้วยแก้ว มีทั้งหมด 3 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกัน มีมุมถ่ายรูปที่สวยงาม ซึ่งเป็นที่ถูกใจนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ชั้นที่ 1 สายน้ำไหลตกจากหน้าผาสูงและโขดหินขนาดใหญ่ประมาณ 30 เมตร |
แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
บ่อน้ำร้อนห้วยหมากเลี่ยม เป็นบ่อน้ำร้อนริมแม่น้ำกก ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของที่ทำการ อช. ลำน้ำกก เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวล่องเรือตามลำน้ำกกมานาน มีทิวทัศน์สวยงามร่มรื่น ในหน้าแล้งจะมีโปรแกรมขี่ช้างเที่ยว โดยช้างจะพาข้ามลำน้ำกกไปยังบ่อน้ำร้อน บริการให้แช่น้ำแร่ บ่อน้ำร้อนห้วยหมากเลี่ยมเป็นบ่อน้ำร้อนขนาด เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 ม. มีน้ำร้อนผุดขึ้นมาช้าๆจากนั้น จะไหลเป็นห้วยเล็กๆไปยังบ่อซีเมนต์ที่ทำไว้สำหรับให้ลงแช่โดยเฉพาะ บ่อน้ำร้อนมีอุณหภูมิ 67 องศาเซลเซส มีแร่ธาตุฟลูออไรด์ ไนเตรด ซัลเฟต ไอโอดีน ในระดับที่ไม่เป็นอันตราย มีห้องอาบน้ำส่วนตัว 30 ห้อง และมีสระน้ำอุ่นแบบแช่รวม มีบ้านพักติดน้ำกกจำนวนสามหลัง ลานกางเต็นท์พักแรม ห้องน้ำ และมีร้านอาหาร เครื่องดื่ม ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว |
|
บ่อน้ำร้อนผาเสริฐ บ่อน้ำร้อนผาเสริฐ อยู่บริเวณริมลำห้วยโป่งน้ำร้อน บ้านผาเสริฐพัฒนา หมู่ที่ 6 ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย แต่เดิมบ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่ลุ่มใกล้ลำน้ำกก ในฤดูฝนปริมาณน้ำในลำน้ำกกได้ไหลท่วมนองในพื้นที่บ่อน้ำร้อนเป็นเวลาหลายเดือน และขาดการนำน้ำร้อนมาใช้อย่างจริงจัง มีเพียงการนำหน่อไม้มาแช่ต้มเท่านั้น ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2545 องค์การบริหารส่วนตำบลดอยฮาง |
|
น้ำพุร้อนโป่งพระบาท น้ำพุร้อนโป่งพระบาท บ้านโป่งพระบาท ม.6 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย เป็นน้ำพุร้อนตามธรรมชาติที่มีมานานแล้ว และได้มีการสำรวจอย่างจริงจังโดยขอให้สำนักงานทรัพยากรธรณีวิทยาเขต 3 ( เชียงใหม่ ) กรมทรัพยากรธรณี เข้าร่วมสำรวจคุณภาพของน้ำร้อน ต้นกำเนิดของน้ำพุร้อนเดิมบริเวณที่มีอยู่เป็นป่าไม้ไมยราพและแอ่งน้ำ และจุดที่พบน้ำร้อนเป็นลักษณะแอ่งน้ำร้อน (warm pool ) ที่มีขนาดเล็กประมาณ 2-3 แอ่ง จากการสำรวจพบว่าอุณหภูมิร้อนผิวดินอยู่ระหว่าง 48-50 องศา |
|
บ่อน้ำร้อนแม่ขะจาน บ่อน้ำร้อนแม่ขะจาน ต. แม่เจดีย์ใหม่ อ. เวียงป่าเป้า (บ่อน้ำร้อนแม่ขะจานอยู่ริมทางซ้ายมือ ระหว่างหลัก กม.65-64 ถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่) มีบ่อน้ำร้อนธรรมชาติสามบ่อ แต่ละบ่อกว้างประมาณ 3 เมตร มีอุณหภูมิห้องประมาณ 80 องศา สามารถต้มไข่สุกได้ภายในเวลา 3 นาที มีห้องอาบน้ำแร่ของเอกชนที่ต่อจากน้ำพุร้อนมายังห้องอาบ อยู่ฝั่งตรงกันข้ามถนน ซึ่งเป็นจุดพักรถระหว่างทางจาก เชียงใหม่-เชียงราย |
|
น้ำพุร้อนห้วยทรายขาว น้ำพุร้อนห้วยทรายขาว หมู่ที่ 5 ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย ตั้งอยู่ในทางหลวงแหมายเลข 1 ตอนต่อเขตแขงการทางพะเยาที่ 1 – แยกไปอำเภอแม่สรวย ระหว่าง กม. 793+228 – กม. 793+541 ทางด้านขวา อยู่ในบริเวณที่ราบลุ่ม มีลักษณะเป็นตะกอนน้ำ (Alluvial deposit) ซึ่งประกอบด้วยชั้นของหินทรายและดินที่ยังไม่จับตัวกันแน่น บริเวณแหล่งน้ำพุร้อนครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 12 ไร่ ติดถนนพหลโยธิน ทางด้านตะวันออก ลักษณะของแหล่งน้ำพุร้อนเป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ ที่ก่อเป็นบ่อซีเมนต์ จำนวน 36 บ่อ บ่อน้ำร้อน บ่อน้ำอุ่น และบ่อน้ำเย็น |
|
น้ำพุร้อนป่าตึงหรือโป่งน้ำร้อนห้วยหินฝน น้ำพุร้อนป่าตึง หรือ โป่งน้ำร้อนห้วยหินฝน บ้านป่าตึง ม.11 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน อยู่ระหว่างทางไปดอยแม่สลองสายใหม่ (ทางหลวงหมายเลข 1089) ด้านซ้ายมือใกล้หลัก กม. 78 อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอแม่จัน ถนนแม่จัน - ฝาง ประมาณ 8 กิโลเมตร และอยู่ใกล้กับที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลป่าตึง ประมาณ 700 เมตร ติดกับถนนเส้นทางแม่จัน – ฝาง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของตำบล และอำเภอแม่จัน โดยสร้างเป็นสวนหย่อมใจริมทาง สำหรับเป็นจุดแวะพักรถระหว่างทางไป-กลับดอยแม่สลอง เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่สวยงาม |
|
สวนสาธารณะเกาะลอย...สถานที่ออกกำลังกายที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งในเมืองเชียงราย... สวนสาธารณะเกาะลอย ชุมชนเกาะลอย (ติดแม่น้ำกก) อ.เมือง จ.เชียงราย หลายท่านอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า ในตัวเมืองเชียงรายของเรามีสถานที่ออกกำลังกายที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่ง เมื่อท่านได้ย่างเข้าสู่ประตูของสวนสาธารณะแห่งนี้ จะสัมผัสได้ถึงความร่มรื่น และบรรยากาศที่แสนสบาย เดินรับลมเล่นพร้อมกับชมวิวของแม่น้ำกก ในสวนสาธารณะแห่งนี้ สามารถออกกำลังกายได้หลากหลายประเภทซึ่งมีทั้ง สนามเด็กเล่น สนามเปตอง สนามแบทมินตัน สนามเทนนิส สนามเซปักตระก้อ สนามบาส และยังมีลานกว้างไว้สำหรับจัดกิจกรรมกีฬาต่างๆ ที่เทศบาลหรือเยาวชนจังหวัดเชียงรายจัดขึ้นเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และมิตรภาพ |
|
สวนสาธารณะสนามบินเก่า เมื่อก่อนใช้เป็นสนามบินของชาวเชียงราย แต่เนื่องจากสนามบินนานาชาติจังหวัดเชียงราย ได้ย้ายไปตั้งอยู่ ณ บริเวณที่ตั้งปัจจุบัน ดังนั้นสนามบินเก่าแห่งนี้จึงเหลือแต่รันเวย์ ประชาชนจึงใช้เป็นที่พักผ่อน ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ใช้เป็นสนามเล่นฟุตบอล สนามแบทมินตัน สนามตะกร้อ สถานที่เต้นแอโรบิค จ๊อกกิ้ง ขี่จักรยาน มีสนามเด็กเล่นอยู่อีกจุดหนึ่งถัดไปด้านซ้ายของสนามบิน |
|
สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ เชียงราย สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ เชียงราย ตั้งอยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย ประมาณ 8 กม. บนเส้นทางเชียงราย – แม่จัน ตั้งอยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย (เข้าไปทางด้านหลังมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย) สร้างถวายสมเด็จพระศรีนครินทราฯ เป็น 1 ใน 7 แห่ง ของสวนสมเด็จฯ ที่มีการสร้างถวาย มีพื้นที่ที่เป็นหนองน้ำ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า หนองบัวใหญ่ จำนวน 23 ไร่ และพื้นที่ที่เป็นสวนดอกไม้ 397 ไร่ สวนดอกไม้ตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นเนินเขาและมีศาลาพักผ่อนที่อยู่บริเวณสวนดอกไม้ ซึ่งภายในสวนมีทัศนียภาพสวยงาม |
|
สวนตุงและโคม เชียงราย สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ เชียงราย ถ.ธนาลัย (เยื้องพิพิธภัณฑ์ชาวเขา) ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย ที่ดินจำนวน 11 ไร่เศษ บริเวณถนนธนาลัย ตั้งอยู่ใจกลางย่านการค้าเทศบาลนครเชียงราย จ.เชียงราย ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของเรือนจำกลาง จ.เชียงราย ที่ก่อกำเนิดเกิดขึ้นมากว่า 100 ปี มีกลิ่นอายและตำนานการคุมขังนักโทษชายและหญิงในคดีต่างๆ กว่า 4,000 ชีวิต ซึ่งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าออก บ้างก็ล้มหายตายจากไปก็ไม่น้อย แต่ด้วยความแออัดยัดเยียดของจำนวนนักโทษ |
|